‘นภินทร’ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน โดยขอให้จีนเร่งกระบวนการพิจารณาเปิดตลาดสินค้าปศุสัตว์ให้กับไทย พร้อมทั้งผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจผ่านเวที ทั้งในระดับภูมิภาคและทวิภาคี
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้พบหารือกับนายหวัง โช่วเหวิน (Mr. Wang Shouwen) ผู้แทนการค้าระหว่างประเทศและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ในห้วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งไทยได้หยิบยกประเด็นการเปิดตลาดสินค้าปศุสัตว์ของไทย โดยเฉพาะโคและสุกรมีชีวิต ให้สามารถส่งออกไปยังจีนได้ โดยได้ให้ความเชื่อมั่นกับฝ่ายจีนว่า แนวทางและมาตรฐานการป้องกันโรคระบาดของไทยเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนเดินทางมาตรวจสอบสถานกักกันหรือฟาร์มเลี้ยงปศุสัตว์ของไทย โดยฝ่ายจีนตอบรับไทยในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่
นายนภินทร เปิดเผยอีกว่า ทั้งสองฝ่ายหารือถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจร่วมกันผ่านเวทีการเจรจาที่สำคัญ ได้แก่ การผลักดันให้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน ระดับรองนายกรัฐมนตรี และการประชุมคณะอนุกรรมาธิการว่าด้วยการค้าและการลงทุน ไทย-จีน ระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งยังเห็นพ้องให้เร่งผลักดันการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ให้สามารถสรุปผลได้ภายในปี 2567 ทั้งนี้ การปรับปรุงความตกลงดังกล่าวให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพธุรกิจในปัจจุบัน จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้ผู้ประกอบการยิ่งขึ้น โดยไทยได้ชักชวนจีนเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ด้วย
นายนภินทร เสริมว่า จีนสนใจที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวร่วมกับไทย ซึ่งไทยเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะร่วมมือกับจีน เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง รวมทั้งจีนยังเชิญชวนให้ไทยเข้าร่วมความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการลงทุนเพื่อการพัฒนาภายใต้องค์การการค้าโลก หรือ IFD เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางการลงทุนที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ จีนสนใจจะส่งยารักษาโรคมะเร็งมาขายในประเทศไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ปัจจุบัน จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยในปี 2566 (มกราคม-กันยายน) มีมูลค่าการค้ารวม 78,916.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการส่งออก 26,333.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นการนำเข้าจากจีน 52,583.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปจีน เช่น ผลไม้สด ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ยางพารา ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และทองแดง ขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญจากจีน เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้