รายงานการประชุม
คณะกรรมการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง ประจำกระทรวงพาณิชย์
ครั้งที่ 1/2545
วันพุธ ที่ 19 มิถุนายน 2545
ณ ห้องประชุม 201 กระทรวงพาณิชย์

               รายชื่อคณะกรรมการผู้มาประชุมไม่ได้

               รายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม       

เริ่มประชุมเวลา 10.00 น.

ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
 
- ไม่มี -
 
ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุม ครั้งที่ 5/2544
 
เลขานุการฯ แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ได้จัดส่งรายงานการประชุมคณะกรรมการ CIO ครั้งที่ 5/2544 ทาง E-mail เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2545 โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ขอแก้ไข ข้อความทางโทรศัพท์ ในระเบียบวาระที่ 2 ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ ได้แก้ไขรายงานการประชุมครั้งที่ 5/2544 ฉบับแก้ไขใหม่ส่งไปพร้อมหนังสือเชิญประชุมให้คณะกรรมการทุกท่านพิจารณาแล้ว ขอให้ที่ประชุมพิจารณารายงานการประชุมก่อนรับรองรายงานการประชุมต่อไป
 
มติที่ประชุม
  
รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 5/2544
 
ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องเพื่อทราบ
 
3.1 รายงานความคืบหน้าการดำเนินการโครงการจัดสร้างโครงข่ายพื้นฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงพาณิชย์
 
เลขานุการฯ ได้ชี้แจงรายละเอียดให้ที่ประชุมทราบถึงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการจัดสร้างโครงข่ายพื้นฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงพาณิชย์ ดังนี้
 
1. การจัดสร้างโครงข่ายพื้นฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ อาคาร กระทรวงพาณิชย์ โครงการระยะที่ 2 จังหวัดนนทบุรี มีงาน 2 ส่วน คือ
    1.1 การติดตั้งอุปกรณ์เต้ารับสัญญาณ และการเดินสายสัญญาณ ได้ว่าจ้าง บริษัท รวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด เข้ามาดำเนินการ ซึ่งการจัดจ้างฯ อยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติผ่านกองคลัง โดยใช้งบประมาณจำนวน 4,489,000 บาท (สี่ล้านสี่แสนแปดหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) 
    1.2 การจัดซื้อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครือข่าย โดยวิธีการประกวดราคา ซึ่งจำหน่ายซองประกวดราคาทั้งหมด 10 ราย แต่มีผู้ยื่นซอง 2 ราย การดำเนินงานอยู่ในระหว่างคณะกรรมการพิจารณาผล และจะประกาศผลในวันที่ 21 มิถุนายน 2545 ในส่วนนี้ใช้งบประมาณในวงเงิน 22,158,500 บาท 
ประธาน ให้ข้อสังเกตว่า การดำเนินการในส่วนข้างต้นจำเป็นต้องให้ทันกับการที่หน่วยงานต่างๆ จะย้ายเข้าไปประจำ มิฉะนั้นอาจมีปัญหาในเรื่องอุปกรณ์ได้ และขอให้ผู้แทนของกรมที่จะย้ายไปยังอาคาร 2 นั้นประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในเรื่องสถานที่และจุดติดตั้งคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ขอให้ทุกกรมช่วยพิจารณาว่า เมื่อมีการปรับโครงสร้างหน่วยงานใหม่ในเดือนตุลาคม 2545 ควรจะนำเรื่องนี้เข้ามาพิจารณากันอีกครั้งว่า จะมีการปรับเปลี่ยนจุดติดตั้งคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ตาม โครงสร้างใหม่อย่างไร
 
มติที่ประชุม
 
ที่ประชุมรับทราบ
 
3.2 โครงการแจ้งมติคณะรัฐมนตรีผ่านเครือข่าย Intranet กระทรวง
 
เลขานุการฯ แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีโครงการแจ้งมติคณะรัฐมนตรีผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และเสนอขอความเห็นของหน่วยงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทาง E-mail โดยให้หน่วยงานทุกราชการ การรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย GINET เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและเป็นการรองรับระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีหลักในการดำเนินงานคือ ให้สำนักงานเลขานุการ รัฐมนตรีของแต่ละกระทรวง เป็นศูนย์กลางในการดำเนินเรื่องกระจายเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงนั้นๆ
 
สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศทุกกระทรวงมีหน้าที่ในการประสานกับกรมต่างๆ เพื่อเตรียมรองรับระบบดังกล่าว ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ให้ User name และ Password กับ เจ้าหน้าที่สำนักเลขานุการรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ซึ่งงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงานนี้ ปีงบประมาณ 2545 จะเป็นความรับผิดชอบของ สลค. แต่ในปี 2546 ให้แต่ละกระทรวงตั้งงบประมาณรองรับ ระบบนี้ จะเริ่มใช้ประมาณ ต้นเดือน กรกฎาคม 2545
 
ประธาน ได้มอบหมายให้สำนักบริหารสารสนเทศการพาณิชย์ โดยได้หารือกับสำนักงานเลขานุการคณะรัฐมนตรี การเตรียมการรองรับระบบการรับ-ส่งมติคณะรัฐมนตรี ขอให้ที่ประชุมดูจากผังภาพประกอบ การดำเนินการจะนำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวกับกระทรวงพาณิชย์ ถ่ายโอนมาไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของกระทรวง และให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงเข้ามาในระบบ โดยผ่านเครือข่าย Intranet ของกระทรวง เพื่อนำเรื่องที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อ และประธานฯ มีความเห็นว่าควรจะตั้งเป็นคณะทำงานขึ้น โดยมีตัวแทนจากกรมต่าง ๆ เพื่อจะทำหน้าที่ในการประสานงานในเรื่องนี้ต่อไป
 
ที่ประชุมรับทราบและนำเสนอข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ดังนี้
 

1. ประธาน ให้ข้อสังเกตว่า ระบบนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่จะนำไปสู่ระบบงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ อาจให้แต่ละกรมควบระบบนี้ด้วยระบบอินทราเน็ตกระทรวง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของสำนักเลขานุการรัฐมนตรีควรประสานกับเจ้าหน้าที่ ของทุกกรมที่ดูแลด้านนี้
2. ผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจการค้า (นายมานพ ทองเย็น) ได้ยกตัวอย่างกรณีของกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ให้ที่ประชุมทราบว่า กรมได้มอบหมายสำนักนโยบายฯ เป็นหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องมติคณะรัฐมนตรี
3. แต่ละกรมควรจะเตรียมการรองรับการดำเนินงาน โดยมีเจ้าหน้าที่ที่จะดูแลระบบและ เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานเป็นผู้รับเรื่องและนำเสนอสำนัก/กองที่เกี่ยวข้อง โดยมีสำนักงานเลขานุการ รัฐมนตรีของกระทรวงเป็นศูนย์กลางการประสานงาน
4. การเรียกดูมติ ครม. ดำเนินการโดยผ่านเครือข่าย Intranet ขอให้สำนักบริหารสารสนเทศการพาณิชย์เตรียมการในเรื่องความปลอดภัยของระบบ Intranet ด้วย
5. ขณะนี้ระบบดังกล่าวยังเป็นการทดลองใช้งาน แต่จะเริ่มดำเนินการในราวปลายเดือน มิ.ย. 2545 หรือต้นเดือน ก.ค. 2545

 
มติที่ประชุม

1. ที่ประชุมรับทราบ
2. เห็นควรตั้งคณะทำงานฯ โดยให้ประสานไปยังกรม/อคส. ให้ส่งชื่อผู้แทนเข้าร่วมเป็นคณะทำงานฯ

 
3.3 โครงการพัฒนาระบบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์แบบรวมศูนย์ (Web Mail)
 
เลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า กระทรวงฯ ได้ว่าจ้างที่ปรึกษา มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ จัดทำระบบ Web Mail โดยมี URL คือ http://ceo.moc.go.th ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการใช้เมล์ ซึ่งมีการถ่ายโอนการใช้งานของผู้ใช้ในระบบเดิมมาอยู่ในระบบ Web Mail และได้กำหนด เนื้อที่ในการใช้งาน 5 MB ต่อราย โดยข้าราชการกระทรวงพาณิชย์สามารถใช้งานได้ด้วย User name และ Password เดิม
ซึ่งมีข้อแตกต่างจากระบบเดิมที่ใช้ Outlook คือ ไม่ถ่ายโอนข้อมูลลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ทั้งนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้ระบบเดิม
 
ที่ประชุมรับทราบและนำเสนอข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ดังนี้

1. ประธาน ให้ข้อเสนอแนะว่า ควรเวียนบันทึกแจ้งทุกกรม/อคส. ทราบว่า ขณะนี้มีการทดลองใช้ระบบ Web Mail อยู่ และแต่ละกรม/อคส. ก็ยังสามารถใช้ Mail ระบบเดิมของตนเองควบคู่กันไปได้ ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานนำระบบนี้ไว้ใน Homepage หน้าแรกของกรม และเมื่อทดลองใช้งานแล้วมีปัญหาหรือข้อเสนอแนะให้แจ้งกลับหน่วยงานที่เป็นผู้ดูแลระบบ
2. ผู้แทนกรมส่งเสริมการส่งออก (ร.อ.สุวิพันธุ์ ดิษยมณฑล) แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า กรมมีระบบเมล์สำหรับผู้ส่งออก โดยมีการจัดทำระบบเช่นเดียวกับ hotmail.com เมื่อกระทรวงฯ ดำเนินการในเรื่องนี้ ไม่ทราบว่ารองรับในส่วนของผู้ส่งออกได้ด้วยหรือไม่
3. คุณนันทนา ทัศนวิจิตรวงศ์ กรมทะเบียนการค้า แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงปัญหา กรณีที่ผู้ใช้งานไม่ลบเมล์ จะทำให้พื้นที่ใช้งานส่วนกลางเต็ม จึงควรมีผู้คอยดูแลระบบในส่วนนี้ด้วย

 
มติที่ประชุม

1. ที่ประชุมรับทราบ
2. แจ้งเวียนให้หน่วยงานภายในกระทรวงทราบ และนำ URL เชื่อมโยงไว้ใน Homepage หน้าแรกของกรมด้วย และทดลองใช้ระบบ Web Mail ดังกล่าว เมื่อรับทราบปัญหาหรือข้อเสนอแนะ จะได้นำมาพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อต่อไปกระทรวงฯ จะมีระบบ Web Mail รองรับให้ทุกหน่วยงานใช้ เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณโดยรวม

 
3.4 การจัดการเอกสารด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
 
เลขานุการฯ รายงานให้ที่ประชุมทราบว่า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้ว่าจ้าง บริษัท เอ็กซ์เซล ลิงค์ เข้ามาดำเนินการจัดทำโปรแกรมการจัดการเอกสารด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการดำเนินการในทิศทางเดียวกับกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกัน ในทางปฏิบัติได้ดำเนินการแล้วที่กองกลาง และมีการติดตั้งระบบที่ธุรการของสำนัก/กอง ในสำนักงานปลัดแล้ว คาดว่า ภายในสิ้นเดือน มิ.ย. 2545 จะทดลองใช้งานได้
 
ประธาน ขอทราบการดำเนินงานของกรม/อคส. ว่ามีหน่วยงานใดที่จัดทำระบบดังกล่าวแล้ว

• กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ได้ว่าจ้าง บริษัท เอ็กซ์เซล ลิงค์ จัดทำและได้ดำเนินการแล้ว
• กรมการค้าภายใน ได้ว่าจ้างบริษัท ป๊อบ เน็ตเวิร์ค จำกัด และได้ดำเนินการแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างบริษัทฯ ศึกษา วิเคราะห์ และออกแบบระบบงาน
• กรมส่งเสริมการส่งออก อยู่ในระหว่างให้บริษัท เอ็กซ์เซล ลิงค์ วางระบบ แต่เพิ่มระบบเตือนติดตามงาน

ประธาน ได้ให้ข้อสังเกตว่า การจัดทำระบบการจัดการเอกสารด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้นสำนักงานปลัดกระทรวงควร เป็นหน่วยงานหลัก แต่ในทางปฏิบัติสำนักงานปลัดกระทรวงไม่สามารถตั้ง งบประมาณให้ได้ จะทำได้ในส่วนของการดูแลการดำเนินงานในภาพรวม กรม/อคส. ควรจะตั้งงบประมาณไว้เพื่อรองรับในการขยายผลต่อยอดจากสำนักงานปลัดกระทรวง
 
ผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจการค้า (นายมานพ ทองเย็น) รายงานให้ที่ประชุมทราบว่า กรมได้กำหนดหมวดหมู่เอกสาร 40 หมวด โดยหมวดที่ 1-11 กำหนดให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี หมวด 12-40 เป็นหมวดงานเฉพาะของกรม ฉะนั้น การกำหนดหมวดหมู่เอกสารที่ 1-11 จะเป็นไปตามระเบียบงานสารบรรณเช่นเดียวกันหมด เพราะฉะนั้น ไม่น่าจะเป็นปัญหาในเรื่องการขยายผลต่อยอด
 
รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ (นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ) เสนอในที่ประชุมว่า ควรมีหลักการว่า กรมที่ยังไม่ได้จัดทำระบบดังกล่าว หากจะตั้งงบประมาณดำเนินการก็ให้ต่อยอดจากระบบที่สำนักงานปลัดกระทรวงดำเนินการอยู่
ประธาน ให้แนวทางการดำเนินการในเรื่องนี้ว่า ให้สำนักงานปลัดกระทรวงเป็นแกนหลัก โดยตกลงกับบริษัทในการขอใช้สิทธิ License ร่วมกันในกรณีหน่วยงานในกระทรวงจะดำเนินการจัดทำระบบดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
 
มติที่ประชุม

1. ที่ประชุมรับทราบ
2. หน่วยงานที่ยังไม่ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ให้ประสานกับสำนักงานปลัดกระทรวงในรายละเอียดต่อไป

ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องเพื่อพิจารณา
  
4.1 เตรียมข้อมูลด้านไอที รองรับการชี้แจงคณะกรรมาธิการงบประมาณ
 
เลขานุการฯ แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงการเตรียมข้อมูลงบประมาณเพื่อชี้แจงคณะ กรรมาธิการงบประมาณด้านไอที ซึ่งในปีงบประมาณ 2546 มีการจัดทำงบประมาณรูปแบบใหม่ แต่ยังคง ชี้แจงแบบเดิม ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอความร่วมมือจากกรม/อคส. เพื่อขอให้จัดทำข้อมูลงบประมาณ ตามแบบฟอร์มที่สำเนาให้ที่ประชุม โดยมีข้อมูลงบประมาณด้านไอทีของสำนักงานปลัดกระทรวงเป็นตัวอย่าง และจัดเตรียมในส่วนของเนื้อหาข้อมูล ซึ่งประกอบไปด้วย วิสัยทัศน์ ภารกิจหลัก เป็นต้น ทั้งนี้ จะจัดส่งแบบฟอร์ม พร้อมเนื้อหาข้อมูล ให้ผู้แทนแต่ละกรม/อคส. ทาง E-mail อีกทางหนึ่งด้วย
 
ประธาน แจ้งให้ที่ประชุมทราบเพิ่มเติมว่า ข้อมูลจากแต่ละกรม/อคส. ที่ได้รับนั้น จะพิจารณาเนื้องานเป็นสำคัญ หากมีงานที่ซ้ำซ้อนกันหรือใกล้เคียงกันจะได้หาทางชี้แจงให้เห็นสำนักงบประมาณเห็นภาพว่าเป็นเรื่องภารกิจเฉพาะของแต่ละกรมซึ่งมีความแตกต่างและมีความจำเป็นต้องของบประมาณจัดทำ หากไม่เตรียมข้อมูลชี้แจงในกรณีดังกล่าว อาจถูกสำนักงบประมาณตัดงบประมาณไปได้
 
มติที่ประชุม
 
ฝ่ายเลขานุการฯ ส่งแบบฟอร์มและเนื้อหาการเตรียมข้อมูลประกอบการชี้แจง ให้เจ้าหน้าที่กรม/อคส. ตอบกลับโดยเร็ว เพื่อเตรียมข้อมูลชี้แจงฯ ต่อไป
 
4.2 ปรับปรุง Home Page ของ Website กระทรวงพาณิชย์ และการเชื่อมโยงข้อมูล ระหว่างหน่วยงาน
เลขานุการฯ ได้มอบหมายให้ คุณพจนีย์ ช้างหลำ ชี้แจงในเรื่องนี้ดังนี้ วัตถุประสงค์ของการปรับปรุง Homepage ซึ่งเป็นหน้าแรกของกระทรวง เพื่อต้องการให้บุคคลภายนอกสามารถเห็นภาพว่า กระทรวงพาณิชย์ให้อะไรแก่เขาและภาพลักษณ์ของกระทรวงคืออะไร รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลใน Website ค่อนข้างยากต้องผ่านหลาย Page ดังนั้นจึงจะขอความเห็นในที่ประชุมว่าควรจัดตั้งคณะอนุกรรมการฯขึ้นมาเพื่อกำกับดูแล ตรวจสอบข้อมูลและเนื้อหาใน Website ให้น่าสนใจและทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
ประธาน ได้ให้หลักการจัดทำในเรื่องดังกล่าว ดังนี้

1. ให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าไปสืบค้นข้อมูลได้โดยง่าย
2. การ Design น่าสนใจเรียกใช้
3. นำเสนอข้อมูลเด่น ๆ ไว้ในหน้าแรก
4. หัวข้อที่ไม่มีข้อมูล ให้ลบออกไป
5. แต่ละกรม/อคส. ควรมีเจ้าหน้าที่ ทำหน้าที่เสมือนบรรณาธิการ คอยดูแลเนื้อหาข้อมูลให้ทันสมัย
6. ให้แต่ละกรม / อคส. จัดเจ้าหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในเรื่องนี้ทั้งในด้านข้อมูลและทางด้านเทคนิค

ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ (นายกนกรัตน์ คุ้มบัว) เสนอประเด็นให้ที่ประชุมพิจารณาว่า ข้อมูลมีอยู่ 2 ประเภท คือ ข้อมูลกลางของกระทรวง และข้อมูลเฉพาะของกรม ควรเรียกดูโดยง่ายและสะดวก ควรให้เจ้าหน้าที่ที่รู้ข้อมูลกำหนดโครงสร้างของข้อมูลก่อนการจัดทำด้านเทคนิค
 
มติที่ประชุม

1. เห็นควรตั้งคณะอนุกรรมการฯ เพื่อกำกับดูแลในเรื่องดังกล่าว
2. ให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานไปยังกรม/อคส. ให้ส่งชื่อผู้แทนเข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการฯ

 
ระเบียบวาระที่ 5 เรื่องอื่น ๆ
 
- ไม่มี -
 
เลิกประชุมเวลา 11.30 น.