Header Image
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมกิจกรรม Meet the Press หัวข้อ “ก้าวต่อไปของไทย สู่ศูนย์กลางความร่วมมือทางการค้าและการพัฒนาของเอเชีย” และการเปิดพันธกิจของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) ในการเป็นเวทีกลางด้านองค์ความรู้และความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาควิชาการในระดับภูมิภาค เมื่อวันพุธที่ 6 สิงหาคม 2568 ณ ร้าน Préf Café & Bar กรุงเทพฯ
watermark

          นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมการจัดกิจกรรม Meet the Press หัวข้อ “ก้าวต่อไปของไทย สู่ศูนย์กลางความร่วมมือทางการค้าและการพัฒนาของเอเชีย” และการเปิดพันธกิจของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) ในการเป็นเวทีกลางด้านองค์ความรู้และความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาควิชาการในระดับภูมิภาค เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ณ ร้าน Préf Café & Bar กรุงเทพฯ 
          นายฉันทวิชญ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา ภายหลังสหรัฐฯ เตรียมใช้มาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไทยในอัตรา 19% ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีล่าสุดได้อนุมัติถ้อยแถลงการณ์ร่วมไทย-สหรัฐ และขณะนี้ทีมเจรจาของไทยอยู่ระหว่างการหารือกับสหรัฐฯ เพื่อบรรลุข้อตกลงที่เรียกว่า ART Text (Agreement on Reciprocal Tariff Text) หรือ เนื้อหาข้อตกลงอัตราภาษีต่างตอบแทน
          “หลังจากบรรลุข้อตกลง ART Text แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เพื่อให้ผู้แทนประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจว่าข้อตกลงดังกล่าวเหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่” นายฉันทวิชญ์ กล่าว
          สำหรับการจัดเก็บภาษี 19% ถือเป็น “ข่าวดีในขั้นแรก” เพราะช่วยรักษาความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย แต่ในระยะต่อไป ไทยจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับการคํานวณสัดส่วนมูลค่าการผลิตในประเทศ (Regional Value Content: RVC) และกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (Rule of Origin) เพื่อให้การส่งออกของไทยยังคงได้สิทธิประโยชน์ทางการค้า
          ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้หารืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ รวมถึงภาคเอกชนไทยทั้งรายใหญ่และรายเล็ก เพื่อให้เข้าใจโครงสร้างการผลิตและเตรียมมาตรการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยเตรียมเปิดศูนย์ One-Stop Service เพื่อช่วยผู้ประกอบการปรับตัวสู่กฎเกณฑ์ใหม่และการแข่งขันในตลาดโลก
          นายฉันทวิชญ์ ระบุเพิ่มเติมว่า กระบวนการเจรจายังต้องพิจารณารายละเอียดอีกหลายด้าน ทั้งการเปิดตลาด (Market Access) การลดข้อจำกัดที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers) และตารางอัตราภาษีสำหรับแต่ละสินค้า โดยผลการเจรจาจะต้องสมดุลและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย พิจารณาถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก่อนที่จะมีการลงนามอย่างเป็นทางการต่อไป

 


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
starstarstarstarstar