Header Image
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (คทป.) โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุม เมื่อวันพุธที่ 6 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุมสำนักรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง
watermark

          นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (คทป.) ร่วมด้วย นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดึงหน่วยงานภาครัฐกว่า 20 แห่ง ร่วมบูรณาการขับเคลื่อนแผนพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาไทยในมิติต่างๆ เพื่อเสริมแกร่ง SMEs ดันเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และงานสร้างสรรค์
          นายพิชัย ชุณหวชิร เปิดเผยว่า “ทรัพย์สินทางปัญญา” คือหนึ่งกลไกสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในมิติด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศ เพราะนานาชาติต่างให้ความสำคัญกับการคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หากประเทศไทยมีระบบนิเวศด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์และใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ย่อมนำมาซึ่งการดึงดูดการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยให้แข่งขันได้ในเวทีโลก 
          นายพิชัย กล่าวว่า ที่ประชุม คทป. ได้ร่วมกันกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายด้านทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยมอบหมายกระทรวงพาณิชย์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการการทำงานและติดตามผล ซึ่งหนึ่งในนโยบายสำคัญที่จะดำเนินการเร่งด่วน คือการยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของไทย ภายใต้ กรอบดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index: GII) โดยมีแนวทางขับเคลื่อน 6 ด้าน ได้แก่ 1) การใช้ประโยชน์งานวิจัยและการลงทุนด้านนวัตกรรม 2) การเพิ่มมูลค่านวัตกรรมด้วยความคิดสร้างสรรค์และทรัพย์สินทางปัญญา 3) การพัฒนานวัตกรรมผ่านกลไกทางการเงินและตลาดทุน 4) การส่งเสริมการขยายผลและการใช้ประโยชน์นวัตกรรม 5) การพัฒนาวิสาหกิจฐานนวัตกรรมและกําลังคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ และ 6) การบริหารจัดการข้อมูลนวัตกรรม 
         ด้านนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หนึ่งในนโยบายเร่งด่วนที่ได้รับมอบหมายจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจตุพร บุรุษพัฒน์) คือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับ SMEs ไทย ภายใต้นโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” โดยมีเป้าหมายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้ภาคเอกชน ประชาชน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการนำทรัพย์สินทางปัญญามาสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มมูลค่าให้สินค้าและบริการยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ กระทรวงพาณิชย์จึงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาศักยภาพด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้ครอบคลุมทุกมิติตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่ประชุมจึงเห็นชอบแผนพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญา พ.ศ. 2569 – 2570 โดยบูรณาการการทำงานเชิงรุกทั้งในด้านการพัฒนากฎหมาย ด้านการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ด้านการให้บริการภาครัฐ และด้านการมีส่วนร่วมและสร้างความตระหนักรู้ของภาคประชาชน เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเหมาะสม ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้ยังจะเป็นแนวทางในการดำเนินการเพื่อให้สหรัฐฯ พิจารณาถอดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List: WL) ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษด้วย การประชุม คทป. ครั้งนี้ได้สะท้อนความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้เข้มแข็ง ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขัน การลงทุน และผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน นายฉันทวิชญ์ กล่าวทิ้งท้าย

 


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
starstarstarstarstar