Header Image
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ถนนบรรทัดทอง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม ๒๕๖๘ ณ กรุงเทพมหานคร
watermark

          นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ถนนบรรทัดทอง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง ตามนโยบาย“พาณิชย์พึ่งได้” เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหา รวมถึงข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการร้านอาหารและสตรีทฟู้ดในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
          ถนนบรรทัดทองเป็นย่านร้านอาหารที่ได้รับการจัดอันดับโดย นิตยสาร Time Out ให้เป็น “ถนนที่เท่ที่สุดในโลก อันดับที่ 14” (World’s Coolest Streets) เมื่อปี 2014 ปัจจุบันมีร้านอาหารทั้งเก่าแก่และรุ่นใหม่กว่า 300 ร้าน สร้างรายได้หมุนเวียนให้เศรษฐกิจหลายพันล้านบาทต่อปี แต่ในระยะหลัง ผู้ประกอบการต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ค่าเช่าพื้นที่ที่สูงขึ้น และกำลังซื้อของคนไทยที่ชะลอตัว
          นายจตุพร กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ตระหนักถึงศักยภาพของถนนบรรทัดทองที่จะพัฒนาเป็น ‘แลนด์มาร์กสตรีทฟู้ดระดับโลก’ แต่ขณะเดียวกันต้องรับฟังข้อเท็จจริงจากผู้ประกอบการ และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
          “ที่นี่มีร้านอาหารจำนวนมาก ต้องมาดูว่าปัญหาที่แท้จริงอยู่ตรงไหน แล้วแก้ให้ตรงจุด เพราะมีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คมนาคม กรุงเทพมหานคร และจุฬาฯ ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ต้องช่วยกันออกแบบอนาคตร่วมกัน สิ่งสำคัญคือการรวมกลุ่มผู้ประกอบการ ตั้งคณะกรรมการที่มีส่วนร่วมจริง และวาดคอนเซ็ปต์ให้ชัดว่าบรรทัดทองจะมีเอกลักษณ์แบบไหน” นายจตุพรกล่าว
          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอแนวทางเร่งด่วน 4 ด้าน ได้แก่
          1.การรวมกลุ่มผู้ประกอบการให้เข้มแข็ง โดยตั้งกรรมการเป็นทางการ เพื่อเป็นกลไกหลักในการสื่อสารและตัดสินใจ เมื่อดำเนินการใดๆ จะได้มีพลังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
          2.การกำหนดคอนเซ็ปต์ย่าน (Unique Identity) เช่น จัดโซนพิเศษในวันเสาร์–อาทิตย์ และสร้างบรรยากาศที่แตกต่างเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
          3.การลดต้นทุนผู้ประกอบการ โดยผลักดันนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” นำสินค้าคุณภาพดีราคาเป็นธรรมมาเชื่อมโยงกับร้านอาหารในพื้นที่ในลักษณะฟาร์มทูเทเบิล
          4.การจัดอีเวนท์ต่อเนื่อง อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อสร้างบรรยากาศคึกคักและเชื่อมโยงกับย่านท่องเที่ยวอื่นๆ ของกรุงเทพฯ 
          นายจตุพร ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์พร้อมประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันนโยบาย “พาณิชย์พึ่งได้” โดยทำงานเชื่อมโยงจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ และรณรงค์ใช้สินค้าไทยไปพร้อมกับการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ย่านนี้
          “ผมอยากให้บรรทัดทองเป็นย่านที่คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จัก ว่าเป็นสตรีทฟู้ดที่ปลอดภัย มีเอกลักษณ์ และมีบรรยากาศที่เดินสนุก กินเพลิน เดินชิลล์ เติมศิลป์ ไม่ต่างจากจตุจักรหรือทรงวาด ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กที่ใครมากรุงเทพฯ ก็ต้องแวะมา” รมว.พาณิชย์ กล่าว
          ด้านผู้แทนผู้ประกอบการถนนบรรทัดทองสะท้อนว่า ปัจจุบันแม้จะมีร้านค้ารวมกว่า 385 ร้าน แต่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง จากเดิมที่มีจำนวนถึง 30,000–40,000 คนต่อวัน จนผู้ประกอบการประสบปัญหาจึงเสนอให้ภาครัฐและจุฬาฯ เร่งร่วมกันกำหนดแผนพัฒนาและผลักดันให้ถนนบรรทัดทองเป็น “เขตเศรษฐกิจสร้างสรรค์” เพื่อสร้างเสน่ห์ใหม่และรักษาศักยภาพของย่านนี้ไว้
          ทั้งนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะเจ้าของพื้นที่ ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการ โดยการจัดโครงการลดต้นทุน โครงการการจัดการสิ่งแวดล้อม และพัฒนาพื้นที่ให้มีความยั่งยืน พร้อมทั้งผลักดันให้มีการจัดกิจกรรม “Night Street Food” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
          ผศ.ดร.จรัสพัฒน์  พฤกษารัตนวุฒิ  ผู้ช่วยอธิการบดี ด้านการจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ เปิดเผยว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นการพัฒนาย่านสามย่าน-บรรทัดทอง ในทุกในมิติ ที่ไม่เพียงแต่พัฒนาด้านเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่มุ่งเน้นการพัฒนาทั้งด้านความเป็นอยู่ของชุมชนสังคม สิ่งแวดล้อมทั้งให้ความสำคัญด้านพื้นที่สีเขียวและการประหยัดพลังงาน การพัฒนาพื้นที่โดยใช้เทคโนโลยี และพัฒนาเมืองให้เป็น SMART CITY รวมทั้งยังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนบรรทัดทองอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความเจริญเติบโตของเมืองทั้งในปัจจุบัน และอนาคต พร้อมทั้งการพัฒนาความสัมพันธ์เพื่อสร้างพลังความร่วมมือกับทั้งผู้เช่าที่ไม่ใช่แค่ผู้เช่ากับผู้ให้เช่า แต่สร้างความสัมพันธ์แบบพาร์ทเนอร์กันและกัน 
          สร้างสรรค์ให้บรรทัดทองมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน เกิดเป็น THAILAND’s STREET FOOD LANDMARK โดยการรวมพลังช่วยกันเสริมจุดแข็ง และแก้ไขจุดอ่อนให้กับผู้ประกอบการ เช่น  "โครงการโต๊ะกลม" ที่จะให้คำปรึกษา ติดอาวุธให้ความรู้ทั้ง AI  การเงิน การตลาด ภาษีแก่ผู้ประกอบการ เป็นต้น
          Business matching ให้ผู้ผลิตมาพบกับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยเหลือด้านการลดต้นทุนวัตถุดิบด้วยการจัดโครงการ Partnership "PMCU Resterant Stronger Togetheres นอกจากนี้ยังวางแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในระยะยาว โดยมุ่งเน้นเป็นต้นแบบทางด้าน SDGs เพื่อเป็นต้นแบบด้านการพัฒนาพื้นที่ย่านการค้าอย่างยั่งยืน
#SuperDBD #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #กระทรวงพาณิชย์

 


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
starstarstarstarstar