

กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้นำขบวนผู้ประกอบการสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications: GI) 18 รายการจากท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ มาร่วมจัดแสดงและจำหน่ายในงานอย่างคึกคักโชว์ศักยภาพสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นไทย และเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการและชุมชนท้องถิ่น โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 28 ธันวาคม 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้ายกระดับสินค้าอัตลักษณ์ชุมชนสู่สินค้าเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง ผ่านการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ควบคู่กับการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มในหลายมิติ พร้อมเร่งส่งเสริมช่องทางจำหน่ายสินค้า GI ให้เข้าถึงผู้บริโภคในตลาดที่หลากหลาย เพื่อสร้างรายได้และความมั่นคงให้แก่ชุมชนผู้ผลิต โดยสินค้าGI ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน Quick Big Win ทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีอัตลักษณ์โดดเด่น สามารถนำมาต่อยอดเชิงพาณิชย์และสร้างความแตกต่างในตลาดได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา จึงได้ผนึกกำลังกับ กระทรวงมหาดไทย กรมพัฒนาชุมชน ขยายช่องทางจำหน่ายสินค้า GI ในงานมหกรรมสินค้า OTOP ครั้งใหญ่ส่งท้ายปี โดยเล็งเห็นว่าสินค้า GI และสินค้า OTOP ต่างมีจุดร่วมสำคัญคือการเป็นสินค้าจากฐานชุมชนที่ใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นจุดแข็งและจุดขายอย่างไรก็ดี สินค้า GI มีความแตกต่างในด้านการคุ้มครองสิทธิ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีคุณลักษณะเฉพาะเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีกระบวนการผลิตในพื้นที่เฉพาะและมีระบบควบคุมคุณภาพสินค้าตามมาตรฐานที่ขึ้นทะเบียนไว้ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ในโอกาสนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา จึงได้ยกขบวนสินค้า GIเด่น 18 รายการ จาก 17 จังหวัดทั่วประเทศ ร่วมจำหน่ายในงาน “OTOP City 2025” ตั้งแต่วันที่ 20 - 28 ธันวาคม 2568 โดยสินค้าที่เข้าร่วม ประกอบด้วย สินค้า GI กลุ่มข้าวและอาหาร 9รายการ ได้แก่ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ ปลาช่อนแม่ลา (สิงห์บุรี) ไข่เค็มไชยา (สุราษฎร์ธานี) หอมแดงศรีสะเกษ กระเทียมศรีสะเกษ ขนมหม้อแกงเมืองเพชร (เพชรบุรี) กล้วยตากบางกระทุ่มพิษณุโลก และกาแฟเทพเสด็จ (เชียงใหม่) สินค้า GI กลุ่มผลไม้ 4 รายการ ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอมสามพราน (นครปฐม) มะพร้าวน้ำหอมบางคล้า (ฉะเชิงเทรา) มังคุดเขาคีรีวง (นครศรีธรรมราช) และส้มโอขาวใหญ่สมุทรสงคราม รวมทั้งสินค้า GI กลุ่มงานหัตถกรรม 5 รายการ ได้แก่ ผ้าหม้อห้อมแพร่ ชามไก่ลำปาง ครกหินอ่างศิลา (ชลบุรี) เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน (นครราชสีมา) และเครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ด (นนทบุรี)
ทั้งนี้ สินค้า GI ทั้ง 18 รายการ ล้วนเป็นของดีที่มีชื่อเสียงครองใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศมาอย่างยาวนาน สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 6,082 ล้านบาทต่อปี ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถแวะมาชม ชิม ช็อปสินค้า GI ของแท้ส่งตรงจากแหล่งผลิต ได้ที่บูธ GI Pavilion (เสาที่ 34–35 โซน FF-GG) อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 - 21.00 น. และเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์นี้ (27 – 28 ธันวาคม 2568) กรมฯ เตรียมมอบของขวัญพิเศษในช่วงนาทีทองให้แก่ผู้ร่วมงาน เป็นเซ็ตของขวัญ GI ราคาพิเศษที่หาซื้อไม่ได้จากที่ไหน จำกัดเพียงวันละ 2 รอบเท่านั้น ในช่วงเวลา 13.00 น. และ 16.00 น. สายช็อป GI ห้ามพลาดเด็ดขาด
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา เน้นย้ำเดินหน้าส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสินค้า GI อย่างต่อเนื่อง ผ่านการขยายตลาดสินค้า GI โดยยกระดับความร่วมมือกับเครือข่ายโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ และแพลตฟอร์มออนไลน์ ผลักดันสินค้าเข้าสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาต่อยอดสินค้า GI ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยการนำสินค้า GI เข้าร่วมงาน OTOP City 2025 ครั้งนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการเปิดพื้นที่ทางการตลาด สร้างการรับรู้ และเพิ่มโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อผลักดันให้สินค้า GI ไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สามารถสร้างคุณค่าและรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
ในโอกาสนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าเยี่ยมชมบูธแสดงสินค้ากระทรวงพาณิชย์ (SMART Local Pavilion) ภายในงาน OTOP City 2025 และให้กำลังใจผู้ประกอบการชุมชนที่เข้าร่วมออกบูธ
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 20 - 28 ธันวาคม 2568 กรมพัฒนาธุรกิจการค้านำผู้ประกอบการชุมชนที่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาจากหน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์ 30 รายทั่วประเทศ เข้าร่วมงาน OTOP City 2025 ซึ่งจัดขึ้น ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี โดยคัดสรรผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพดี สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ไทยร่วมสมัย ให้ได้เลือกชม เลือกชอป อาทิ *ตุ๊กตามวยไทยจากเส้นใยผักตบชวาขึ้นรูป วิสาหกิจชุมชนบ้านผักตบชวาไม้ตรา จ.พระนครศรีอยุธยา *ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผ้ามัดย้อมชิโบริสีธรรมชาติแม่อิง จ.พะเยา *เครื่องใช้จากไม้แบรนด์ AWA จ.นนทบุรี *กระเป๋าจักสานกระจูดร่วมสมัยปักลาย แบรนด์กระจูดบ้านเรา จ.พัทลุง*ผ้าขาวม้าหมักโคลน กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านสะง้อ (ดารานาคี) จ.บึงกาฬ *เสื่อจันทบูร กลุ่มสตรีทอเสื่อกก บ้านเสม็ดงาม จ.จันทบุรี เป็นต้น
ไฮไลต์สำคัญของงานในครั้งนี้ คือ “New Year Lucky Bag by DBD” ถุงสุ่มมีดี ของดีจากชุมชนที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ชุมชนใน Pavilion กระทรวงพาณิชย์ มาจำหน่ายในรูปแบบ Lucky Bag ราคาพิเศษ เฉพาะในงานOTOP City 2025 นี้เท่านั้น นอกจากผู้บริโภคจะได้ร่วมสนุก ลุ้นของดีในราคาเข้าถึงง่ายแล้ว ควบคู่ไปกับประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าที่สนุกและแปลกใหม่ สามารถนำไปเป็นของฝากของกำนัลช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ยังสามารถสร้างกระแสให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นอีกด้วย
อธิบดีพูนพงษ์ฯ กล่าวต่อว่า ภายในงานฯ กรมฯ ยังมีโซนจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์เบญจมู (Benjamoo) โดยมีแมวมงคล “KONJA โกนจา” เป็นผลิตภัณฑ์แรกของแบรนด์ เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี ความเป็นสิริมงคล และนำมาซึ่งสิ่งที่ดีดีทั้งปัจจุบันและอนาคต เกิดจากการรวมพลังเครือข่ายผู้ประกอบการชุมชนมีดี ภายใต้กิจกรรม SMART Local METRIX-D ของกรมฯ ที่ได้นำเอกลักษณ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และจุดเด่นสินค้าของตนเองมาถ่ายทอดผ่านการออกแบบ จนเกิดเป็นแบรนด์ ‘เบญจมู’ ทั้งนี้ ภายในงานฯ ยังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ได้ร่วมกันรังสรรค์อย่างต่อเนื่อง เน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ที่สะท้อนตัวตนของชุมชนไทยร่วมสมัย ถือเป็นก้าวแรกของการต่อยอดธุรกิจเครือข่ายสร้างสรรค์ที่แข็งแรงกว่าเดิม
นอกจากนี้ที่โซน “มีดี มีของใหม่” ได้เปิดตัว “ผลิตภัณฑ์ใหม่”(New Collection) ของผู้ประกอบการที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษเน้นความทันสมัย ใช้งานได้จริง พร้อมเปิดจำหน่ายภายในงานนี้เป็นที่แรก อาทิ *THE NEW COLLECTION HAND BAG WOVEN FABRIC กระเป๋าผ้าทอ แบรนด์ INDY GO จ.สกลนคร *Cracked serenity ผ้ามัดย้อมมูลวัวนม แบรนด์ มัดมอวาลู จ.สระบุรี *กระเป๋า Lucky day แบรนด์ Nineshop99 จ.เชียงราย *กระเป๋าเสื่อลายกกเหล่าพัฒนาวิสาหกิจชุมชนสหกรณ์จักสานตำบลเหล่าพัฒนา(สานกกครูเรือง) จ.นครพนม *พวงกุญแจผลึกนิล แบรนด์นิล ณ กาญจน์ จ.กาญจนบุรี เป็นต้นเหมาะเป็นของฝากของกำนัลในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ทั้งนี้ โซนมีดี มีของใหม่ได้รับการออกแบบให้เป็นจุดสร้างประสบการณ์ใหม่แก่ผู้เข้าร่วมงานที่สามารถสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดสรรค์เป็นพิเศษ สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่มีกลิ่นอายการออกแบบที่ร่วมสมัย จัดแสดงอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ดึงดูดทุกช่วงวัยในบรรยากาศเทศกาลปลายปีอย่างอบอุ่น
การนำผู้ประกอบการ 30 ราย เข้าร่วมงานในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนส่งเสริมและพัฒนาด้านการตลาดให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อเสริมศักยภาพการประกอบธุรกิจให้เข้มแข็ง ด้วยการประยุกต์ใช้นวัตกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พร้อมเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างสมดุลและยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการไทย ตามแนวคิด "กระตุ้นสั้นได้ผลยาว กระจายตัว" ด้วยการนำสินค้าชุมชนสู่ตลาดใหญ่ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดผลอย่างรวดเร็วและทันที เพื่อเพิ่มระดับศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ให้เกิดกระจายตัวของเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ ซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการวางรากฐานการเติบโตในอนาคต เสริมเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ คาดว่าตลอดการจัดงาน 9 วัน จะสามารถสร้างยอดขายให้ผู้ประกอบการที่ร่วมออกงานทั้ง 30 ราย ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ทั้งยอดขายภายในงานและคำสั่งซื้อของคู่ค้าในอนาคต นับเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์ชุมชนเข้าสู่ตลาดอย่างมีภาพลักษณ์ใหม่ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่ม และทำให้สินค้าไทยร่วมสมัยขึ้น พร้อมต้อนรับเทศกาลปีใหม่ด้วยพลังสร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบ
โอกาสนี้ ขอเชิญชวนทุกท่านมาสัมผัสอัตลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวอันทรงคุณค่า พร้อมร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการชุมชนไทยและสินค้าไทย ภายในงาน OTOP City 2025ระหว่างวันที่ 20 - 28 ธันวาคม 2568 ณ SMART Local Pavilion กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี รวมถึงช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์ให้เลือกซื้อเพิ่มเติมได้หลังจบงาน” อธิบดีพูนพงษ์ฯ กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดหรือติดตามกิจกรรมเกี่ยวกับธุรกิจชุมชนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ที่ กองธุรกิจภูมิภาคและชุมชน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5950 Call Center 1570 และ เว็บไซต์ www.dbd.go.th