วันที่ 23 สิงหาคม 2568
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าอัญมณีและเครื่องประดับ โดยได้เยี่ยมชมการซื้อขายพลอย ณ ตลาดกลางพลอยนานาชาติ และประชุมหารือกับผู้ประกอบการ ณ ศูนย์ส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี บรรยากาศการลงพื้นที่เต็มไปด้วยความคึกคัก นายจตุพรและนายสุชาติได้พบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนอย่างเป็นกันเอง พร้อมเยี่ยมชมการเจียระไนพลอยโดยช่างฝีมือในท้องถิ่น รวมถึงห้องปฏิบัติการวิเคราะห์และวิจัยอัญมณีของมหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านมาตรฐานการตรวจสอบที่เทียบเท่าระดับสากล สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ
นายจตุพร กล่าวว่า จันทบุรีถือเป็น “เมืองหลวงแห่งอัญมณีของโลก” ที่มีชื่อเสียงยาวนาน แต่ปัจจุบันเผชิญความท้าทายจากปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน ซึ่งต้องนำเข้าจากประเทศโมซัมบิกและประเทศอื่นๆ ขณะที่ตลาดหลักอย่างจีนชะลอตัวหลังวิกฤตโควิด-19 และยังมีมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อการค้า ทำให้ภาคเอกชนจำเป็นต้องหาตลาดใหม่ๆ รองรับ
“รัฐบาลพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการเต็มที่ ทั้งการเปิดตลาดใหม่ การส่งเสริมผ่านงานแสดงสินค้าอย่าง Bangkok Gems & Jewelry Fair รวมถึงการมอบหมายให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกช่วยหาทั้งตลาดและวัตถุดิบใหม่ เราต้องการให้เมื่อคนพูดถึงอัญมณี ต้องนึกถึงจันทบุรี และผลักดันจังหวัดนี้ให้เป็นมหานครแห่งอัญมณีอย่างแท้จริง” นายจตุพร กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวถึงนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” และ “พาณิชย์พึ่งได้” ที่มุ่งช่วยเหลือประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งในเรื่องสินค้าเกษตร เช่น ทุเรียนและลำไยที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของจันทบุรี รวมถึงการแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและการกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีให้เกษตรกร
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้จันทบุรีโดดเด่นไม่ใช่วัตถุดิบเท่านั้น แต่คือทักษะฝีมือการเจียระไนของแรงงานไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก รัฐบาลจึงต้องเข้ามาช่วยดูแลให้แรงงานฝีมือมีรายได้ที่เหมาะสม และรักษามาตรฐานการผลิตไว้ เพื่อให้ตลาดพลอยไทยยังคงเป็นที่ยอมรับและแข่งขันได้ในระยะยาว พร้อมย้ำว่ากระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันการขยายตลาดไปยังจีน ยุโรป และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีกำลังซื้อสูง
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัด Roadshow ในหัวเมืองสำคัญ การเชิญผู้ซื้อจากต่างประเทศเข้ามาในจันทบุรี การฝึกอบรมด้านการออกแบบและการตลาดออนไลน์ รวมถึงการประสานงานกับผู้นำเข้ารายใหญ่ในสหรัฐฯ ที่แสดงความสนใจลงทุนในไทยเพราะเล็งเห็นศักยภาพด้านแรงงานฝีมือ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่คู่แข่งไม่สามารถเลียนแบบได้
ด้านผู้ประกอบการในพื้นที่ยังได้เสนอแนวทางเพิ่มเติม อาทิ การสนับสนุนการจัดแสดงสินค้าที่ต่างประเทศ การเชิญผู้ซื้อที่มีศักยภาพมาเยือนจันทบุรี และการส่งเสริมภาพลักษณ์ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ เช่น การขึ้นบอร์ดแนะนำ “พลอยจันทบุรี” ที่สนามบิน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ซื้อ
“สิ่งที่เราต้องการคือการขับเคลื่อน ‘จันทบุรีโมเดล’ ให้เป็นรูปธรรม โดยจังหวัดและทุกภาคส่วนต้องร่วมกันสร้างโรดแมปเพื่อผลักดันให้จันทบุรีก้าวสู่มหานครอัญมณีโลกอย่างยั่งยืน” นายจตุพร กล่าว