ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดสัตว์เลี้ยงทั่วโลกคึกคักกว่าที่เคย ด้วยกระแส “เลี้ยงสัตว์เป็นครอบครัว” ที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่แต่งงานหรือมีลูก และผู้สูงอายุที่นิยมเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อน ส่งผลให้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และข่าวดีคือ “ประเทศไทย” กำลังก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนี้

ล่าสุด ปี 2567 ไทยส่งออกอาหารสุนัขและแมวทะยานขึ้นเป็น อันดับ 2 ของโลก ด้วยมูลค่า 2,677 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นกว่า 10% ของตลาดโลก เติบโตถึง 29% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามหลังเพียงเยอรมนีที่ยังครองแชมป์อันดับหนึ่ง

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาหารสัตว์เลี้ยงไทยไปไกลถึงระดับโลก คือ ภาพลักษณ์ด้านคุณภาพและมาตรฐานสินค้าอาหารของไทยที่ผู้บริโภคต่างประเทศเชื่อมั่น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่คัดสรร ความปลอดภัย รวมถึงการพัฒนาสูตรอาหารที่ตอบโจทย์หลากหลายความต้องการ เช่น

อาหารเพื่อสุขภาพสัตว์เลี้ยง
สูตรสำหรับสัตว์เลี้ยงสูงวัยหรือป่วย
อาหารเกรดพรีเมียมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง

ตลาดหลักที่หนุนการเติบโต

- สหรัฐอเมริกา: ตลาดใหญ่อันดับหนึ่งของไทย คิดเป็น 32.4% ของการส่งออกทั้งหมด มูลค่ากว่า 868 ล้านเหรียญสหรัฐ โตแรงถึง 47%

- ญี่ปุ่น: ครองอันดับ 2 มูลค่า 329 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้จะทรงตัวแต่ยังเป็นตลาดที่มั่นคง

- ออสเตรเลียและอิตาลี: โตแรงกว่า 30–45% สะท้อนความนิยมในสินค้าจากไทย

- สหภาพยุโรป: ตลาดรวมขยายตัวสูงถึง 47% โดยเฉพาะเยอรมนีและเบลเยียมที่โตเกิน 70–90%

นอกจากตลาดหลัก ไทยยังเจาะตลาดใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย คูเวต และยูเออีที่เติบโตเกิน 60–100% หรือแม้แต่ตลาดยุโรปตะวันออกอย่าง โปแลนด์ ลิทัวเนีย และโรมาเนีย ที่ตัวเลขขยายตัวเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์

การเติบโตนี้ไม่ได้มาเพียงเพราะความนิยมเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้น แต่ยังมีเทรนด์สำคัญที่เป็นแรงขับเคลื่อน เช่น

- สังคมผู้สูงวัยและครอบครัวเล็กลง ทำให้คนหันมาเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนมากขึ้น
- เทรนด์อาหารสุขภาพ ที่เจ้าของใส่ใจเลือกอาหารคุณภาพสูงให้น้องหมา-น้องแมว
- ความยั่งยืน จากบรรจุภัณฑ์และสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเริ่มเป็นที่ต้องการ

หากผู้ประกอบการไทยสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งสุขภาพสัตว์เลี้ยง และ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ไทยก็มีโอกาสก้าวขึ้นเป็น เบอร์ 1 ของโลกในอนาคตอันใกล้

จาก “ครัวของโลก” วันนี้ไทยกำลังกลายเป็น “ครัวของสัตว์เลี้ยงโลก” ไปแล้ว ด้วยคุณภาพที่ได้รับการยอมรับ เทรนด์ตลาดที่หนุนการเติบโต และศักยภาพในการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง